เจ้าคุณอาชว์ คลายสงสัย เงินส่วนตัวหรือจากส่วนไหน?

วันนี้ (3 ก.ค 68) พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผูบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยถึงความคืบหน้ากรณีเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำแท่งหนัก 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 22 ล้านบาท ของพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง หายไปจากกุฏิอย่างปริศนา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว กล่าวว่า เรื่องนี้กองกำกับการ 1 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กก.1 บก.ปปป.) รับหน้าที่ดำเนินการ และรับผิดชอบ ประกอบกับวันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเงินทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าทางตำรวจเราเองก็ไม่ได้ปล่อยทิ้ง และอยู่ระหว่างติดตาม ให้สังคมคลายข้อสงสัย เมื่อก้อนเงินจำนวนมากเกิดขึ้น ก็ต้องว่าไปตามระบบ

เจ้าคุณอาชว์

บิ๊กเต่าไม่ปล่อยทิ้ง ไล่สอบเส้นเงิน เจ้าคุณอาชว์

ส่วนที่มาของยอดเงินทั้งหมดนั้น ได้เก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับวัดบางส่วนมาไล่ตรวจสอบแล้ว และเราก็อยากพูดคุยกับเจ้าอาวาสวัดม่วงโดยตรงก่อน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่ายอดเงินทั้งหมดเป็นเงินที่ท่านสะสม เก็บออมมานานตั้งแต่บวชหรือไม่ หรือเป็นเงินที่ไหลมาจากอะไร ทุกอย่างต้องชัดเจน มีหลักฐานตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเงินไว้โดยที่ไม่เข้าธนาคาร หรือเก็บเงินเข้าธนาคารอยู่เรื่อยๆ ทุกอย่างมีเหตุมีผล ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบ ก็คือเงินทั้งหมดได้มาอย่างไร ถูกต้องหรือไม่

เมื่อถามว่าเจ้าอาวาสวัดม่วง ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนแล้ว ว่ายอดเงินที่ไปถอนออกมานั้น เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ในวันเกิด พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ก็เป็นส่วนที่เจ้าอาวาสให้ข้อมูลมา แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ก็อยากจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้าอาวาส ในการที่จะไปตรวจสอบว่าเงินนั้นเป็นเงินส่วนตัวจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเงินส่วนตัวจริง เราก็จะตอบได้ว่า จากการตรวจสอบแล้ว พบเส้นเงินทุกอย่าง เป็นเงินส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นเงินของเจ้าอาวาสไป แต่ถ้าการตรวจสอบของเรา พบข้อพิรุธ หรือข้อสงสัย หรือพบเส้นทางการเงินที่ไม่ชอบมาพากล ไม่ถูกกฎหมาย ก็ต้องว่าไปตามคดี โดยเบื้องต้นยัง ก็ไม่ทราบชัดว่าวัดมีเงินหมุนเวียนเท่าไหร่ อยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นกัน

ส่วนข้อมูลจากกลุ่มไวยาวัจกรวัด หรือคนอื่นๆ ในวัด ก็มีข้อมูลอยู่ว่า เจ้าอาวาสมักจะเอาเงินมาลงทุน โดยเฉพาะช่วงที่ทองกำลังขึ้น-กำลังลง ก็น่าลงทุน เงินอยู่เฉยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าอาวาสก็มักจะนำเงินมาลงทุนแปรเปลี่ยนทองคำ แต่ครั้งนี้พอเจ้าอาวาสไม่อยู่ เงินกลับหายไป จึงเชื่อว่ายังมีอะไรหลายส่วนที่ซับซ้อน ตรงนี้โรงพักพื้นที่เองก็กำลังเร่งคลี่คลายเรื่องนี้อยู่ แต่สิ่งที่เราต้องทำ และเป็นที่น่าสงสัยคือ เงินก้อนนี้มาอย่างไร?

เมื่อถามว่าเจ้าอาวาส เจ้าคุณอาชว์  มีเงินที่ค่อนข้างเยอะ ถือว่าผิดปกติหรือไม่นั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า เรามองเห็นภาพของวัดที่จน และวัดที่รวย ซึ่งวัดที่รวย เงินตรงนี้ถือว่าไม่เยอะ แต่สำหรับวัดม่วง ดูแล้วการทำบุญบริจาค คงไม่ได้เยอะมากมาย เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่าสงสัย คือยอดเงินจำนวนนี้มาจากไหน

ขณะที่ในส่วนของความผิดเรื่องของเงินและทองคำหาย เป็นความผิดเรื่องของคดีอาญา ถ้าหากเจ้าอาวาสเอาเงินออกมาจากบัญชีวัด หรือเอาของวัดไปเล่นหุ้น หรือเงินหายไป ก็ถือว่าทุจริต เพราะเอาเงินวัดมาเป็นเงินของตัวเอง ซึ่งตามหหลักแล้วการที่จะเอาเงินวัดมาใช้ หรือทำอะไรที่มีประโยชน์ ต้องมีหลักฐานชี้แจงได้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ให้ซ้ำรอยกรณีของวัดไร่ขิง formuladenegocio