ผลึกเหลว ขึ้นสู่อวกาศสำเร็จ ครั้งแรกของไทย ม.เกษตรศาสตร์

ที่แหลมคะเนอเวอรัล มลรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.ย.68 เวลา 05.02 น. ตามเวลาในประเทศไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมมือกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า จัดทำ โครงการ Thailand Liquid Crystals in Space (TLC) นำผลึกเหลว(Liquid Crystals) บรรจุในอุปกรณ์อวกาศหรือเพย์โหลด บรรจุไว้ในยานอวกาศ Cygnus เที่ยวบินที่ NG-23 ของบริษัท Northrop Grumman และถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Falcon 9 ของบริษัท SpaceX ซึ่งมุ่งหน้าสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เพื่อทดลอง ในอวกาศ ซึ่งเป็น ที่ใช้ในการผลิตหน้าจอ LCD ที่มีความเร็วสูง ใช้ปริมาณไฟต่ำ และมีความคมชัดดีเยี่ยม โดยการปล่อยเพย์โหลดดังกล่าว ประสบความสำเร็จปล่อยขึ้นสู่อวกาศแล้วอย่างเรียบร้อยราบรื่น

ครั้งแรกของไทย ม.เกษตรศาสตร์ร่วมกับนาซ่า ส่ง “ผลึกเหลว” ขึ้นสู่อวกาศสำเร็จ

ผลึกเหลว

โดยมีคณะจากประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีกับความสำเร็จดังกล่าว ได้แก่ ดร. ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผศ.ดร.กฤษณ์ วันอินทร์ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและพันธกิจเพื่อสังคม ศ.ดร.ครศร ศรีกุลนาถ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัยและความเป็นสากล รศ.ดร.วันชัย ปลื้มภาณุภัทร คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร ผู้อำนวยการ บพค. ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด รองผู้อำนวยการ GISTDA โดยมี รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มก. เป็น หัวหน้าโครงการ TLC โอกาสนี้ Dr. Robyn Gatens – NASA ISS Director และ Mr. Robert Hampton – Director of Payload Operations จาก U.S. ISS National Lab ได้แสดงความชื่นชมยินดีในความสำเร็จครั้งนี้ด้วย

รศ.ดร.ณัฐพร กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจมากว่าในที่สุดความพยายามกว่า 6 ปีก็มาถึงจุดที่องค์กรอวกาศระดับโลกให้การต้อนรับพวกเราทีมไทยแลนด์ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติ นาทีประวัติศาสตร์ที่จรวด Falcon 9 ทะยานออกจากฐานปล่อยจรวดมันคือความตื้นตันเป็นจุดที่บอกว่าตัวเองและทีมงานก้าวผ่านความยากลำบากที่ได้ฝ่าฟันและต่อสู้ให้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติในระดับโลกได้

รศ.ดร.ณัฐพร กล่าวต่อว่า เพย์โหลด TLC จะทดลองในอวกาศเป็นเวลา 3 เดือน รวมจำนวนชั่วโมงทำการทดลอง 144 ชั่วโมง โดยภารกิจการทดลองจะดำเนินการโดยนักบินอวกาศ NASA ร่วมกับทีมนักวิจัยจากประเทศไทยและนิสิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่จะประจำการภาคพื้นดินที่ Payload Operation Control Center ของบริษัท Voyager Technologies ที่เมืองฮูสตัน มลรัฐเท็กซัส และที่ ISS Microscope Control Center ของบริษัท BioServe Space Technologies ที่เมือง Boulder มลรัฐโคโลราโด ซึ่งทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทในความควบคุมดูแลของ NASA

หัวหน้าโครงการ TLC กล่าวด้วยว่า สำหรับทำการทดลอง ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงบนสถานีอวกาศนานาชาตินั้นประกอบไปด้วย 2 ส่วนใหญ่ๆด้วยกัน คือ Control module และ Image module โดย Control module เป็นโมดูลสำหรับการควบคุมคือการจ่ายกระแสไฟฟ้า น้ำ และอากาศให้กับ Image module ซึ่ง Image module นั้นจะมีหน้าที่ในการจ่ายสารผลึกเหลว (liquid crystal) ให้กับเพลทที่ถูกเจาะรูสำหรับสร้างฟิล์ม  ทำหน้าที่สร้างฟิล์มของ และลำเลียงไอน้ำและอากาศสำหรับการทำการทดลอง

“ระบบเพย์โหลดทั้งสองชิ้นส่วนนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้ระบบไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรงของสถานีอวกาศที่ความดันไฟฟ้า 28 โวลต์ โดยทั้งสองชิ้นส่วนได้รับการอนุญาตจาก NASA ให้ใช้กำลังไฟฟ้าจากสถานีอวกาศนานาชาติได้สูงสุด 120 Watts โดยมีจำนวนเซสชั่นของการทดลองอย่างน้อย 48 เซสชั่นซึ่งมีระยะเวลาการทดลอง 3 ชั่วโมงในแต่ละเซสชั่น รวมเป็น 144 ชั่วโมงสำหรับการทดลอง ในระหว่างทำการทดลองนั้นสามารถบันทึกผลการทดลองและออกคำสั่งต่างๆสำหรับทำการทดลองจากสถานีควบคุมภาคพื้นดินไปยังบนสถานีอวกาศนานาชาติผ่านระบบเครือข่าย uplink

และติดตามผลการทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติผ่านระบบ downlink ได้ตลอดเวลาการทำการทดลองในแต่ละเซสชั่น โดยข้อมูลผลการทดลองซึ่งเป็น high resolution video จะถูกส่งลงมากับHard Disk Drive SSD 6 TB ทั้งนี้ เพย์โหลด TLC จะถูกส่งกลับมายังพื้นโลกโดยเที่ยวบิน SpaceX-33 ในเดือนมกราคม 2569 นี้ พร้อมกับข้อมูลการทดลองใน Hard Disk Drive SSD 6 TB และจะถูกนำส่งมายังประเทศไทยเพื่อให้ทีมวิจัยและนิสิตนักศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูล formuladenegocio