เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีเรือสปีดโบ๊ท เกาะล้าน พบซากวาฬ ลอยขึ้นอืดอยู่หน้าหาดสังวาล เกาะล้าน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างจากฝั่งประมาณ 1 ไมล์ทะเล โดยสภาพของซากวาฬ อยู่ในสภาพเน่าเปื่อย เนื้อยุ่ยแตกสลายไปกับน้ำทะเล จนไม่สามารถดูได้ว่า เป็นวาฬสายพันธุ์ใด และส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่วบริเวณ
เศร้า พบซาก “วาฬบรูด้า” ตัวใหญ่ติดอวนตาย

ขณะที่ทีมข่าวได้พยายามหาข้อมูล ทราบว่า ซากวาฬดังกล่าว มีการพบเจอกันครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา โดย นายวีรวิม นันทเวช อายุ 39 ปี นักตกปลา เป็นผู้ไปพบ และได้ถ่ายคลิปวิดีโอ ซากวาฬขนาดลำตัวใหญ่ ลำตัวยาวเกือบ 4 เมตร สภาพขึ้นอืด ลอยอยู่กลางทะเล พร้อมกับโพสต์คลิปดังกล่าว ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และระบุข้อความไว้ว่า “เศร้าใจ กับการหากินแบบไม่สนอะไรเลย น้องตายแบบที่ยังมีอวนพันตัวน้องอยู่ ขอให้ กับพวกมักง่ายที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ขอบคุณกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทันทีที่ผมส่งคลิป แจ้งพิกัด กรมทรัพย์ให้ความสนใจ ใส่ใจ ที่จะลงไปเก็บกู้น้องด้วยครับ”

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายวีรวิม นันทเวช พร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 ได้นำคณะออกไปแข่งขันตกหมึก ที่บริเวณระหว่าง เกาะรางเกวียน กับ เกาะเป็ด ก็พบซากวาฬ คาดว่าน่าจะเป็น ลอยขึ้นอืดอยู่กลางทะเล โดยตัววาฬ พันติดอวนตาถี่ หรือที่เรียกกันว่า “อวนมุ้ง” อยู่รอบตัว และยังมีเชือกทุ่นของอวนพันรอบตัวด้วยเช่นกัน โดยซากอยู่ในสภาพบวมอืดเต็มที่ และเชื่อว่า วาฬตายเพราะติดอวนของชาวประมง

นายวีรวิม นันทเวช ด้วยประสบการณ์ เชื่อว่า วาฬตัวนี้หากมีชีวิตอยู่ ต้องมีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัม และรู้สึกเสียดายที่วาฬต้องมาตายเพราะฝีมือของมนุษย์ ซึ่งอวนดังกล่าวจะเป็นของเรือประมงขนาดเล็ก ที่ชอบมาใช้ลากอวนหาปลาแล้วลากไปติด พอรู้ว่าลากติดวาฬบรูด้า แทนที่จะช่วยแต่กลับปล่อยอวนทิ้ง และถ้าหากในวันนั้น ชาวประมงขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หรือกลุ่มประมงด้วยกัน คงไม่ตาย เพราะ เป็นสัตว์หายากในทะเลฝั่งบ้านเรา
ด้านกรมประมงจังหวัดชลบุรี และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และอยู่ในระหว่างออกตามหาซากวาฬดังกล่าว คาดว่ายังลอยอยู่ใกล้ๆกับเกาะล้าน หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.