คปท. จับตาการปักหมุดเขตแดน 17 พ.ย.นี้ หากไทยเสียเปรียบ

คปท. จับตาการปักหมุดเขตแดน วันที่ 2 พ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณบ้านหนองจาน ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว คึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล เคลื่อนมวลชนกว่าสองร้อย จากกรุงเทพมหานคร ขึ้นรถบัส 3 คัน เดินทางมาตั้งแต่ช่วงตี 5 เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนไทย–กัมพูชา

คปท. จับตาการปักหมุดเขตแดน

คปท. จับตาการปักหมุดเขตแดน 17 พ.ย.นี้ หากไทยเสียเปรียบ อาจรวมพลครั้งใหญ่

สำหรับขบวนรถเดินทางมาถึงบ้านหนองจาน ช่วงเวลา 10.00 น. จากนั้นมวลชนรวมตัวกันบริเวณบ้านหนองจาน บนถนนศรีเพ็ญ เพื่อทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง และเครื่องดื่ม มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง พร้อมปราศรัยย่อย แสดงจุดยืนของกลุ่ม คปท. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนเปิดเวทีเล็กแสดงดนตรี โฟล์คซองให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องขยายเสียงจากฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่

ทางด้าน นายพิชิต กล่าวว่า “หนองจานคือแผ่นดินไทย เรามายืนยันสิทธิ์ ไม่ยอมให้ใคร ยึดครอง” ระหว่างการปราศรัย นายพิชิตกล่าวอีกว่า การเดินทางมาวันนี้เป็นการมาแสดงพลังของประชาชนผู้รักชาติ เพื่อยืนยันว่าพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นของประเทศไทย และเป็นของคนไทยทั้งประเทศ พร้อมชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ และมุ่งหวังให้ภาครัฐเร่งรัดกระบวนการทวงคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่กัมพูชาเข้ามายึดครอง

นายพิชิต กล่าวต่อว่า แม้รัฐบาลไทยและกัมพูชาจะลงนามสัญญาสันติภาพร่วมกัน แต่ฝ่าย คปท. เห็นว่าข้อตกลงนี้อาจเป็นดาบสองคม เพราะที่ผ่านมากัมพูชาไม่เคยปฏิบัติตามข้อตกลงใดอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการถอนกำลัง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือการรักษาพื้นที่ปลอดอาวุธ บางครั้งยังพบว่ามีการฝังทุ่นระเบิดเพิ่ม หรือซ่อนอาวุธอื่นไว้ในพื้นที่ ซึ่งสร้างความไม่ไว้วางใจ ให้กับประชาชนชายแดน

ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย–กัมพูชา (JBC) ที่เตรียมเริ่มปักหมุดเขตแดนในวันที่ 17 พ.ย. 2568 คปท. และภาคประชาชน จะเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด หากผลการปักหมุดทำให้ไทยเสียเปรียบหรือเสียดินแดนอธิปไตยแม้เพียงเล็กน้อย กลุ่มก็อาจรวมพลังเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมและปกป้องอธิปไตยของชาติ

สำหรับการแสดงออกของ คปท. และของนายวีระ สมความคิด แม้จะมีวิธีการต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน คือการทวงคืนแผ่นดินไทย เพียงแต่ครั้งนี้ คปท. ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่พามวลชนเข้าไปในพื้นที่พิพาทเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการเจรจาของรัฐบาล

ส่วนท่าทีของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่าในช่วงก่อนรับตำแหน่ง เคยประกาศชัดว่าจะไม่ยอมเสียดินแดน แม้แต่เซนติเมตรเดียว แต่หลังการเจรจาสันติภาพ กลับแสดงท่าทีอ่อนลง และยอมรับว่าบางส่วนของไทยอาจรุกล้ำไปในฝั่งกัมพูชา ซึ่งเป็นถ้อยคำที่อาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปฏิบัติและประชาชน รวมถึงอาจถูกต่างชาตินำไปตีความต่อในทางเสียหาย

ทั้งนี้ เรากังวลว่าจะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะตอนนี้รัฐบาลดูจะอ่อนข้อให้กับกัมพูชาเกินไป และอาจไม่ทันเกม และไม่เห็นด้วยกับการเปิดด่าน ไทยมีศักยภาพทั้งด้านเศรษฐกิจและกองกำลังเหนือกว่า และพร้อมรวมพลังหากไทยถูกมองว่าเสียเปรียบหลังการปักหมุดเขตแดนในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้.

formuladenegocio