ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ศาลาการเปรียญวัดป่าวิเวกธรรม บ้านสงเปลือย ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พระครูสันติจันทสาร เจ้าคณะตำบลธัญญา เขต 1 เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรม พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ศิษยานุศิษย์และชาวบ้าน ได้ร่วมกันประกอบพิธีขอขมากรรมต่อ หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ หรือ “หลวงปู่เจ” ประธานสงฆ์วัดป่าวิเวกธรรม จ.กาฬสินธุ์ หลังจากที่หลวงปู่ ได้ละสังขารลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เมื่อเวลาประมาณ 05.24 น. ที่ผ่านมา หลังจากที่หลวงปู่ได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาล มาเป็นเวลากว่า 1 เดือน ก่อนที่จะละสังขารลงอย่างสงบ ท่ามกลางความอาลัยของศิษยานุศิษย์ สิริอายุรวม 85 ปี 38 พรรษา
สิ้น “หลวงปู่เจ กตปุญโญ” ประธานสงฆ์วัดป่าวิเวกธรรม

หลวงปู่เจ กตปุญโญ สำหรับประวัติของหลวงปู่บุญมา กตปุญโญ หรือ หลวงปู่เจ นามเดิม นายบุญมา แก้วปัญญา เกิดเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2483 ที่บ้านพยอม ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ได้บรรพชาเป็นสามเณร จนอายุครบอุปสมบท เข้าอุปสมบทเป็นพระในสังกัดมหานิกายที่วัดบ้านเกิด หลวงปู่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติ และปฏิเวธ อักษรธรรม การเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ จากท่านเจ้าอาวาสในสมัยนั้นจนแตกฉาน
แต่ด้วยสมัยก่อน ลำบากยากจน บิดา-มารดาของท่าน จึงขอร้องให้ท่านออกมาครองเพศเป็นฆราวาส เพื่อจะได้เป็นกำลังหลักหาเลี้ยงครอบครัว ท่านเองเลยจำใจและตัดสินใจลาสิกขาออกมาครองเพศเป็นฆราวาส เพื่อเลี้ยงดูพ่อ-แม่ และครอบครัว โดยในการครองเพศเป็นบรรพชิตของท่านนั้นก็ยังคงถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด มีงานปฏิบัติธรรมที่ไหนถ้าท่านทราบข่าวท่านก็ไปร่วมตลอดเกือบทุกงาน และหาเลี้ยงครอบครัวด้วยซื่อสัตย์สุจริต ครองตน ครองเรือนด้วยศีลธรรม เป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้าน จนชาวบ้านขนานนามท่านว่า “ญาพ่อธรรมเจ”

กระทั้งหลายสิบปีต่อมา ท่านได้กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ครั้งที่ 2 โดยเข้าอุปสมบท ณ วัดอรุณรังษี ต.บางลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก สังกัด มหานิกาย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2533 โดยมีพระครูอรุณวิริยกิจ หรือ หลวงพ่อสายตาบ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เทือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ประสิทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อได้อุปสมบทแล้วท่านได้ศึกษาเล่าเรียนกรรมฐาน และสรรพวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่อสายตาบ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์อยู่สักระยะหนึ่ง
อยู่มาวันหนึ่งก็ได้มีพระรูปหนึ่งธุดงค์เดินทางมาพักแรมที่วัดอรุณรังษี ท่านเลยเข้าไปสนทนาด้วย จึงได้ทราบว่าพระรูปนี้เดินทางมาจากวัดเขาสมโภชน์ ซึ่งได้ไปศึกษาเล่าเรียนกรรมฐานเปิดโลกกับหลวงพ่อคง และเล่าประสบการณ์ที่ได้ไปศึกษากับหลวงพ่อคงให้ท่านฟัง เมื่อท่านได้ฟังอย่างนั้น จึงเกิดความสนใจและอยากไปศึกษาที่วัดเขาสมโภชน์ ท่านจึงกราบลาหลวงพ่อสายตาบ และได้ออกเดินทางจากวัดอรุณรังษี เพื่อไปศึกษาธรรมกรรมฐานเพิ่มเติมที่สำนักกรรมฐานเปิดโลก “หลวงพ่อคง จตฺตมโล” ผู้มีฉายา (พระอรหันต์ร่างทอง) แห่งวัดเขาสมโภชน์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ในวัดเขาสมโภชน์
ท่านได้รีบเร่งทำความเพียรจนเกิดความรู้ภายในต่าง ๆ ก้าวหน้าจากเดิมไปมาก หากติดขัดอะไรท่านก็เข้าไปถามหลวงพ่อคง ท่านก็แก้ให้จนสามารถปฏิบัติไปได้โดยลำดับ เมื่อได้หลักการปฏิบัติกรรมฐานแล้ว ประกอบกับหลวงพ่อคงท่านได้มรณภาพลง ท่านจึงตัดสินใจออกเดินทางธุดงค์ปลีกวิเวกไปตามป่าเขาลำเนาไพรไปยังพื้นที่ต่างๆ ลงไปทางภาคใต้ถึง อ.สวี จ.ชุมพร กลับขึ้นมาทางเหนือถึง จ.เพชรบูรณ์ ก่อนเดินทางกลับมาภาคอีสานอีกครั้ง เพื่อเดินทางสู่บ้านเกิดของท่าน
ต่อมา ท่านได้กลับไปสร้างวัดป่าแห่งหนึ่งใกล้บ้านเกิดของท่าน คือ วัดป่าสิบเก้า บ้านบึงโดน และยังออกธุดงค์ไปๆมาๆ อีกหลายสถานที่ หลวงปู่ท่านได้มีโอกาสได้ไปสนทนาธรรมและขอสรรพวิชาพระคาถาต่างๆ กับพระเทพวิทยาคม “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” แห่งวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา และได้พักจำวัตรอยู่วัดบ้านไร่อยู่หลายครั้ง เมื่อเดินทางออกจากวัดบ้านไร่ ท่านก็จะแวะไปสนทนาธรรมและพักกับ “หลวงพ่อทอง ชินวํโส” วัดป่าหิมพานต์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางกลับมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดป่าวิเวกธรรม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
ด้วยวัดป่าวิเวกธรรมฯ นี้ ท่านได้เป็นหนึ่งในผู้มาร่วมบุกเบิกโคกป่าช้า 7 หมู่บ้าน ร่วมพลิกแผ่นดินแผ่นป่าให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนาร่วมกับ “พระอาจารย์ยุทธ จันทสาโร” ผู้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทอง ชินวํโส ผู้เป็นสหธรรมของท่านเอง ที่วัดป่าวิเวกธรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
หลวงปู่เจ กตปุญโญ หลวงปู่บุญมา กตปุญโญ หรือ (หลวงปู่เจ) ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มุ่งเน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ฉันอาหารเจ ละเว้นการเบียดเบียน ลูกศิษย์จึงเรียกนามท่านว่า “ปู่เจ” ท่านเป็นพระที่มักน้อย พูดน้อย ชอบความวิเวก สันโดษ มีเมตตาเป็นเลิศ มีความเพียรเป็นเลิศ ละเว้นการเบียดเบียน ประพฤติตนอยู่ในพระธรรมวินัย รักษาข้อวัตรปฏิบัติ รักษาพระธรรมวินัย เป็นพระผู้ปฏิบัติตนตามรอยแห่งองค์พระศาสดาและเป็นที่พึ่งของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ กำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงปู่บุญมา เบื้องต้น ทางคณะกรรมการวัดฯ ได้กำหนดให้มีการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมสรีระสังขาร ในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะมีการประกอบพิธีประชุมเพลิง (รอกำหนดวันอีกครั้ง) โดยในช่วงกลางวันศิษยานุศิษย์สามารถเดินทางเข้ากราบเคารพสรีระสังขารหลวงปู่ได้ ณ ศาลาการเปรียญ วัดป่าวิเวกธรรม ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป formuladenegocio
