มหาพีระมิดแห่งกีซา เผยความจริงใครคือผู้สร้าง

มหาพีระมิดแห่งกีซา: อนุสรณ์สถานอันยิ่งใหญ่แห่งอารยธรรมอียิปต์โบราณ

ณ ที่ราบสูงกีซา ชานกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ที่ซึ่งผืนทรายสีทองบรรจบกับท้องฟ้าสีคราม ปรากฏเงาของสิ่งก่อสร้างมหึมาที่ยืนหยัดท้าทายกาลเวลากว่า 4,500 ปี นั่นคือ  (The Great Pyramid of Giza) หรือที่รู้จักกันในนาม พีระมิดของฟาโรห์คูฟู (Pyramid of Khufu) สุสานหลวงอันโอ่อ่าและเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณเพียงแห่งเดียวที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน

ไม่เป็นเพียงแค่กองหินขนาดมหึมา แต่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความรุ่งเรืองทางวิศวกรรม สถาปัตยกรรม และความเชื่ออันลึกซึ้งของชาวอียิปต์โบราณเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย สิ่งก่อสร้างอันน่าทึ่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยปริศนาและความลับที่รอคอยการค้นพบจวบจนทุกวันนี้

มหาพีระมิดแห่งกีซา

ประวัติศาสตร์และการก่อสร้าง

มหาพีระมิดถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของ ฟาโรห์คูฟู ฟาโรห์องค์ที่สองแห่งราชวงศ์ที่ 4 ของอียิปต์โบราณ คาดว่าใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 20 ปี ราว 2,580-2,560 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อใช้เป็นที่ประทับสุดท้ายของพระองค์ โดยเชื่อว่าพระศพของฟาโรห์จะได้รับการปกป้องและรอคอยการฟื้นคืนชีพในโลกหน้า

การก่อสร้างพีระมิดแห่งนี้ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้แรงงานคนและทรัพยากรมหาศาล ประกอบขึ้นจากหินปูนและหินแกรนิตจำนวนกว่า 2.3 ล้านก้อน แต่ละก้อนมีน้ำหนักเฉลี่ย 2.5 ตัน บางก้อนหนักถึง 80 ตัน หินเหล่านี้ถูกสกัดจากเหมืองหินที่อยู่ห่างไกลและขนส่งมายังสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อว่าชาวอียิปต์โบราณอาจใช้ทางน้ำที่ขุดขึ้นจากแม่น้ำไนล์เพื่อลำเลียงหินขนาดใหญ่เหล่านี้

สิ่งที่น่าทึ่งคือความแม่นยำในการก่อสร้าง แม้ในยุคที่ยังไม่มีเครื่องจักรที่ซับซ้อน ชาวอียิปต์โบราณสามารถเรียงหินแต่ละก้อนได้อย่างพอดีจนแทบไม่มีช่องว่าง และยังสามารถกำหนดทิศทางของพีระมิดให้สอดคล้องกับทิศทั้งสี่ได้อย่างน่าอัศจรรย์

โครงสร้างอันน่าพิศวง

แรกเริ่มเดิมที มหาพีระมิดมีความสูงถึง 146.6 เมตร (ปัจจุบันเหลือเพียง 138.8 เมตร เนื่องจากการสึกกร่อนตามกาลเวลา) และเคยครองตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกมานานกว่า 3,800 ปี ฐานของพีระมิดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวแต่ละด้านประมาณ 230.4 เมตร ผิวด้านนอกของพีระมิดเคยถูกปิดทับด้วยหินปูนขัดมันสีขาว ซึ่งจะส่องประกายระยิบระยับเมื่อต้องแสงอาทิตย์ แต่หินเหล่านี้ได้หลุดร่อนออกไปตามกาลเวลาและถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างอื่น ๆ ในภายหลัง

ภายในพีระมิดประกอบด้วยห้องและทางเดินที่ซับซ้อนหลายแห่ง ได้แก่:

  • ห้องเก็บพระศพของกษัตริย์ (King’s Chamber): ตั้งอยู่ใจกลางของพีระมิด สร้างด้วยหินแกรนิตสีแดงขนาดใหญ่ ภายในมีโลงพระศพหินแกรนิตว่างเปล่าตั้งอยู่
  • ห้องเก็บพระศพของราชินี (Queen’s Chamber): อยู่ต่ำลงมาจากห้องของกษัตริย์ แต่ชื่อนี้อาจเป็นการเรียกที่ผิด เพราะนักโบราณคดีเชื่อว่าห้องนี้อาจไม่ได้ใช้สำหรับราชินี
  • แกรนด์แกลเลอรี (Grand Gallery): เป็นทางเดินขนาดใหญ่ที่ทอดตัวสูงขึ้นไปยังห้องของกษัตริย์ มีโครงสร้างเพดานที่โดดเด่นและซับซ้อน
  • ห้องใต้ดิน (Subterranean Chamber): เป็นห้องที่ยังสร้างไม่เสร็จซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ฐานของพีระมิด

ความสำคัญและมรดกทางวัฒนธรรม

ไม่ได้เป็นเพียงสุสานของฟาโรห์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ความศรัทธา และความเป็นอมตะของอารยธรรมอียิปต์โบราณ การวางตำแหน่งของพีระมิดและโครงสร้างภายในสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ทางดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่ก้าวหน้าอย่างน่าทึ่ง

ในปัจจุบัน หมู่พีระมิดแห่งกีซา ซึ่งรวมถึงพีระมิดของฟาโรห์คาเฟรและฟาโรห์เมนคูเร พร้อมด้วยมหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx) ได้กลายเป็นแหล่งโบราณคดีและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักวิชาการจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมและศึกษาความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมไอยคุปต์

มหาพีระมิดแห่งกีซายังคงตั้งตระหง่านเป็นเครื่องเตือนใจถึงความชาญฉลาดและความทะเยอทะยานของมนุษย์ในอดีต เป็นอนุสรณ์สถานอันเป็นนิรันดร์ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน และยังคงเป็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบทหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์โลกที่รอการค้นพบคำตอบต่อไป

formuladenegocio