บรรยากาศพิธีปิดประชุม JBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญราบรื่น แม้จะล่าช้าไปเกือบ 8 ชั่วโมง สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายร่วมลงนามในบันทึกผลการประชุม JBC วาระพิเศษเวลาเที่ยงคืนกว่า! สรุปเห็นพ้องแก้ไข TOR 2003 – เร่งสำรวจ พร้อมจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 – 47 บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว นัดหมายประชุมครั้งต่อไป ช่วงสัปดาห์แรกเดือนมกราคม 2569 ที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
ปิดประชุม JBC ไทย-กัมพูชา เผยหารืออย่างราบรื่น แม้จะล่าช้าไปเกือบ 8 ชั่วโมง

ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 00.12 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยครั้งนี้ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ จัดขึ้นที่โรงแรม มณีจันท์รีสอร์ท จันทบุรี เป็นเวลา 2 วัน คือ วันที่ 21-22 ตุลาคม 2568 ซึ่งประธานทั้ง 2 ฝ่าย ยังเป็นคนเดิม คือ ฝ่ายไทย เป็นนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ส่วนฝ่ายกัมพูชา เป็นนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้ง 2 ฝ่าย ได้สรุปการหารือ และร่วมกันลงนามในบันทึกผลการประชุม JBC วาระพิเศษร่วมกัน พร้อมมอบของที่ระลึกให้กันทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนปิดการประชุมในวาระพิเศษ และถ่ายภาพร่วมกัน

สำหรับผลสรุปหารือวันนี้ ถือว่าการประชุมเป็นไปภายใต้บรรยากาศแห่งมิตรภาพและฉันมิตร
– ทั้ง 2 ฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่ เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน 15 หลัก ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม
– ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดน เพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำ จำนวน 3 หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง
– ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
– เกี่ยวกับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ก. ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47

ข. เมื่อทั้งสองฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายต่อไป ค. การวางหมุดชั่วคราวนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ ง. ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ตามข้อ 3 ของ MOU 2543 และเพื่อให้ชุดสำรวจสามารถปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว